about bewise
BeWise
เรื่องน่ารู้ ... เรื่องน่ารู้ต่าง ๆ ที่ให้ทั้งความรู้และข้อคิดที่มีประโยชน์ต่อตัวน้อง ๆอย่ามองข้าม.... แม้จะเป็นแค่ “ เรื่องเล็กน้อย ”
รู้จักตัวตน ค้นหาคำตอบ!! “ จบ ม.6 แล้ว เรียนต่อคณะไหนดี... ”
: พี่ขนมอบ บีไวส์
: 20 กรกฎาคม 59
– สวัสดีน้องๆ ทุกคนค่ะ พอขึ้นม.6มาแล้วทุกคนคงเจอคำถามจากคนรอบข้างว่า “ เรียนจบม.6ไปแล้วจะเรียนต่อคณะอะไร ” ซึ่งหมายความว่านอกจากเลือกคณะที่อยากเรียนแล้ว เราต้องคิดเรื่องอนาคตว่าจะทำงานอาชีพอะไรอีก สำหรับคนที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนแล้ว พี่ขนมก็ขอดีใจด้วยค่ะ ถือว่าเราประสบความสำเร็จในความฝันไปขั้นหนึ่งแล้ว ส่วนน้องที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรหรืออยากทำงานอาชีพอะไรก็อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างก่อนที่จะเข้าสู่สนามสอบและไปถึงขั้นตอนการเลือกอนาคต–
แน่นอนว่าสิ่งที่เราทำได้ ตอนนี้ก่อนที่ทุกสนามสอบจะเปิดสอบก็คือ สร้างพื้นฐานคะแนนของเราให้แน่นก่อน นั่นก็คือ เกรดเฉลี่ย (GPA) และ เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) เพราะโควตาและรับตรงหลายๆโครงการมีการกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำเอาไว้ หากเกรดเฉลี่ยต่ำกว่าที่โครงการกำหนดไว้ก็จะไม่สามารถสมัครสอบได้ค่ะ ถ้าน้องๆอยากมีโอกาสสอบหลายโครงการกว่าคนอื่นก็ควรทำเกรดเฉลี่ยให้มากๆเข้าไว้ค่ะ ยิ่งถ้าได้เกรด 3.00 ขึ้นไปรับรองว่ามีโครงการรับตรงให้สอบเพียบ! ตอนที่แอดมิดชั่นเกรดของเราถือเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะสัดส่วนเกรดเฉลี่ยสะสมมากถึง 20% เกรดห่างกันเพียง 0.01 มีค่าเท่ากับ 15 คะแนนแอดมิดชั่นเลยนะคะ นี่คือผลของการที่ตรากตรำเรียนมาตลอดสามปีของเรานั่นเอง ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะเรียนอะไรจริงๆ ก็ทำเกรดเฉลี่ยของเราให้ดีที่สุดในเมื่อเรายังคิดอนาคตของเราไม่ออก เรามาทำปัจจุบันของเราให้ดีกันเถอะ
นอกจากเกรดที่ทำเราทำให้ดีแล้ว GAT หรือวิชาความถนัดทั่วไป ก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการแอดมิดชั่นและในรอบรับตรงบางคณะบางมหาวิทยาลัยก็ใช้คะแนน GAT ด้วย ถ้าคะแนน GAT เราเยอะมันคือข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง ในรอบแอดมิดชั่นเราสามารถเลือกคณะที่จะเรียนได้มากกว่าคนอื่นหลายคนติดคณะดีๆ ได้เพราะมีคะแนน GAT มาช่วยนะคะ ถ้าหากเราได้ GAT เชื่อมโยงเต็ม และทำ GAT ภาษาอังกฤษให้ดี พอคะแนนออกมาดีเราก็มีตัวเลือกเยอะกว่าคนอื่นแล้วค่ะ ดังนั้นหมั่นฝึกฝนทำ GAT ให้คล่องและชำนาญถ้าคะแนน GAT ดีชีวิตดีแน่นอนค่ะ
อีกหนึ่งวิธีคือ เราต้องถามตัวเองก่อนว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เช่น เราไม่ชอบคณิตศาสตร์ ไม่ชอบวิทยาศาสตร์ถึงแม้ว่าเราจะอยู่สายวิทย์-คณิตเรียนยังหัวก็ไม่ไป เราสามารถตัดคณะที่เราไม่ชอบออกได้หลายคณะเลยล่ะ การค้นหาตัวเองของเราก็จะแคบลงความฝันของเราจะชัดเจนขึ้นและเราสามารถโฟกัสคณะที่เราสนใจได้มากขึ้นด้วยค่ะ ที่สำคัญคือเราอาจจะสามารถลดความสำคัญของบางวิชาลงและทุ่มเทให้กับวิชาที่เราต้องใช้สอบเข้าได้เต็มที่ค่ะ
การค้นหาตัวเองเราทำได้หลายทางค่ะ หากเราอยู่เฉยๆ หรือมัวอ่านแต่ข้อมูลในโลกโซเชียลเราคงเห็นภาพไม่ชัดและมโนไปว่าเราชอบเราเรียนได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่โอเคเลยค่ะ ในช่วงเปิดเทอมของแต่ละปีบางมหาวิทยาลัยจะจัดงานให้กับน้องๆได้มีโอกาสเข้าไปทัศนศึกษาและศึกษาหลักสูตรต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆเปิดสอนบางครั้งก็มีให้เราได้ลองปฏิบัติด้วย เราสามารถใช้โอกาสนี้ในการค้นหาคณะที่ใช่สาขาที่ชอบได้ไม่ยากเลยค่ะ
การค้นหาตัวเองยังไม่เจอไม่ใช่เรื่องผิดอะไร บางคนยังค้นหาตัวเองไม่เจอจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีเวลาในการค้นหาตัวเองอีกเยอะ ก่อนอื่นเราต้องหาสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนถ้าเจอแล้วคณะที่ใช่สำหรับเราจะลอยมาในหัวเอง (ชอบแล้วต้องเรียนได้ด้วยนะคะ ^-^ ) ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างทางเลือกให้เราเพิ่มขึ้น ทำปัจจุบันให้ดีอย่าทิ้งเวลาไปให้เสียเปล่า อนาคตเราจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับเราสร้างค่ะ พี่ขนมอบเป็นกำลังใจให้เสมอ